ในปัจจุบันฟิล์มกรองแสงก็มีให้เลือกหลากหลายประเภทหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งมองผิวเผินจากภายนอกแล้ว จะมีลักษณะคล้ายๆกันหมด แต่ถ้าจะให้พิจารณาถึงประเภทของฟิล์มกรองแสงตามกระบวนการผลิตแล้ว จะสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
1.ฟิล์มรถยนต์แบบย้อมสี(Deep Dye or Chip Dye Window films)
เป็นฟิล์มติดรถยนต์ที่ราคาถูกที่สุด และคุณภาพแย่ที่สุด ฟิล์มรถยนต์แบบย้อมสีนั้นจะสามารถป้องกันแสงสว่างได้และป้องกันรังสี UV ได้บางส่วน แต่ไม่กันสามารถกันรังสีความร้อนจากแสงแดดได้เลย อายุการใช้งานจะประมาณ 1-3 ปี หลังจากหมดอายุแล้ว ฟิล์มจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง และหลุดลอกออกมาจากระจกในที่สุด
2.ฟิล์มรถยนต์แบบฉาบไอโลหะ (Metallized Evaporation Window Films)
หรือที่เรียกกันทั่วๆไปว่า “ฟิล์มปรอท” ฟิล์มรถยนต์แบบฉาบปรอทแบบนี้จะถูกเคลือบผิวด้วยไอโลหะประเภทต่างๆ เช่น อลูมิเนียม , ไทนาเนียม ฯลฯ ฟิล์มติดรถยนต์แบบฉาบไอปรอทนี้ จะสามารถกันรังสีความร้อนได้มากพอสมควร ผิวฟิล์มจะมีความมันเงา สะท้อนแสง ให้ความเป็นส่วนตัว เป็นที่นิยมในตลาดฟิล์มกรองแสง อายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี
3.ฟิล์มรถยนต์แบบเคลือบอนุภาคโลหะ( Metal Sputtering Window Films )
กระบวนผลิตการจะคล้ายๆ ฟิล์มแบบฉาบไอโลหะ แต่จะฉาบโลหะด้วยวิธี sputtering ทำให้ชั้นโลหะที่ฉาบนั้นจะเรียงตัวบางกว่า ส่งผลให้ฟิล์มเงาน้อยกว่า มีความใส และสามารถป้องกันรังสีความร้อนได้สูง ทำให้ฟิล์มประเภทนี้ราคาแพงมากด้วยเช่นเดียวกัน อายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี
4.ฟิล์มรถยนต์แบบนาโน( Nano-Super IR Window Films )
เป็นฟิล์มที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ ใช้อนุภาคนาโน (อนุภาคขนาด 1/1,000,000,000 ) เคลือบเนื้อฟิล์มแทนโลหะ ทำให้ฟิล์มรถยนต์ประเภทนี้มีคุณสมบัติเด่นหลายประการ สามารถป้องกันรังสีความร้อนได้ดีเยี่ยม เนื้อฟิล์มจะใสเคลีย ไม่สะท้อนแสง ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่จะดีกว่าฟิล์มทั่วๆไปและก็มีความทนทานมากกว่า อายุการใช้งานประมาณ 7-10 ปี
ขอขอบคุณข้อมูลจากสมาคมฟิล์มกรองแสงแห่งประเทศไทย http://www.twfa.or.th/
สอบถามเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงประเภทต่างๆ
เบอร์โทร: 099-335-8756 , 02-003-3583
E-mail: heatgardfilm@gmail.com
Line : HeatGard
Facebook : https://www.facebook.com/heatgardfilm