ฟิล์มติดรถยนต์ ได้รับความนิยมแพร่หลาย จนทำให้ทุกวันนี้การติดฟิล์มรถยนต์ เป็นเรื่องจำเป็น กลายเป็นเรื่องปกติของคนไทยทุกคน แต่ทั้งนี้ วันนี้เราจะมาศึกษาความรู้ที่เกี่ยวข้อกับการเลือกใช้ของดีมีคุณภาพ ความรู้ที่ดี จะทำให้เราลดค่าใช้จ่ายในการติดฟิล์มรถยนต์ไปมหาศาล ทั้งยังได้ของดีมีคุณภาพ เพราะฟิล์มดีๆจะอยู่กับเราไปอีกหลายปี เลือกติดทั้งที เลือกที่ดีๆ ดีกว่าครับ ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โทร 099-335-8756
ติดฟิล์มรถยนต์แบบไหนดี? เทคนิคเลือกฟิล์มที่เหมาะสมกับราคาและคุณภาพ
จะติดฟิล์มรถยนต์ทั้งที ไม่ใช่แค่เอาฟิล์มแผ่นดำๆเงาๆมาแปะกระจกก็เรียบร้อยครับ ฟิล์มรถยนต์นั้นจะอยู่กับเราไปอีกนานหลายปี มาเลือกฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสมกับราคาและคุณภาพดีกว่า ก่อนอื่นเราต้องรู้กันก่อนว่า ฟิล์มติดรถยนต์ถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทตามกระบวนการผลิตครับ
1. ฟิล์มรถยนต์แบบย้อมสี (Deep Dye or Chip Dye Window films)
ฟิล์มดำธรรมดา หรือ ฟิล์มย้อมสีนั้น เป็นฟิล์มรถยนต์ที่ราคาถูกที่สุด และคุณภาพแย่ที่สุด ฟิล์มประเภทนี้จะสีจะซีดและสีจะเพี้ยนค่อนข้างไว ตอนติดใหม่ๆฟิล์มจะมีสีดำ แต่เวลาติดไปนานๆเข้า ฟิล์มจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง ที่สำคัญ ฟิล์มรถยนต์แบบย้อมสีนั้นจะกันแต่แสง แต่ไม่กันความร้อน ว่าง่ายๆคือลดแสงจ้าได้อย่างเดียว แต่ความร้อนยังเข้ามา
ราคาติดตั้งฟิล์มดำธรรมดา หรือ ฟิล์มย้อมสี ติดรอบคัน ราคา 1,000-2,000 บาท รับประกัน 1-3 ปี
2. ฟิล์มรถยนต์แบบฉาบไอโลหะ (Metallized Evaporation Window Films)
ฟิล์มอบบฉาบไอโลหะ หรือที่ภาษาตลาดฟิล์มกรองแสงบ้านเราเรียกกว่า “ฟิล์มปรอท” ( แต่ความจริงฟิล์มแบบนี้ไม่มีปรอทผสมอยู่เลย) ฟิล์มรถยนต์แบบฉาบปรอทแบบนี้จะกันร้อนได้ดีมากพอสมควร ในราคาที่ไม่แพงมาก ผิวฟิล์มจะมีความมันเงา เงามากหรือเงาน้อยก็แล้วแต่กระบวนการผลิต ซึ่งก็เป็นที่นิยมในตลาดฟิล์มรถยนต์บ้านเรา ให้ความเป็นส่วนตัว และกันร้อนได้ดี
ราคาติดตั้งฟิล์มปรอท ติดรอบคัน ราคา 3,500-6,000 บาท รับประกัน 5-7 ปี
3. ฟิล์มรถยนต์แบบเคลือบอนุภาคโลหะ( Metal Sputtering Window Films )
กระบวนผลิตการจะคล้ายๆ ฟิล์มแบบฉาบไอโลหะ แต่จะฉาบโลหะด้วยวิธี sputtering แต่ตัวเนื้อฟิล์มจะเงาน้อยกว่า ผลที่ได้คือจะได้ฟิล์มรถยนต์แบบใสที่คุณภาพการกันร้อนสูง แต่ก็ตามมาด้วยราคาที่สูงเช่นเดียวกัน
4. ฟิล์มรถยนต์แบบนาโน ( Nano-Super IR Window Films )
เป็นฟิล์มที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ ใช้อนุภาคนาโน เช่น อนุภาคเซรามิค บางครั้ง คนจึงเรียกฟิล์มประเภทนี้แบบง่ายๆว่า ฟิล์มเซรามิค นั่นเอง ซึ่งผลิตโดยการฝังเข้าไปในเนื้อฟิล์มแทนการฉาบด้วยโลหะ ฟิล์มรถยนต์ประเภทนาโนจะสามารถป้องกันรังสีอินฟราเรดหรือรังสีความร้อนได้โดยเฉพาะ และก็มีความทนทานกว่าฟิล์มรถยนต์ทั่วๆไป อายุการใช้งานนานเกิน 10 ปี ราคาก็จะแพงกว่าฟิล์มรถยนต์ทั่วๆไป แต่ก็คุณภาพจะดี และจะไม่เสื่อมสภาพเหมือนฟิล์มทั่วๆไปครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจากสมาคมฟิล์มกรองแสงแห่งประเทศไทย http://www.twfa.or.th/
ติดฟิล์มรถยนต์ ความเข้ม 40 60 80 หมายถึงอะไร?
โดยปกติแล้ว รับติดฟิล์มรถยนต์บ้านเรานั้น จะมีการเรียกความเข้มของฟิล์มติดรถยนต์ไว้ 3 ระดับ คือ 40/60/80 ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดของผู้บริโภค การเรียกความเข้มของฟิล์มที่ถูกต้องนั้น จะต้องพิจารณาค่าแสงสว่างส่องผ่าน (Visible light transmission )VLT ยิ่งแสงสว่างส่องผ่านน้อย จะทำให้ฟิล์มติดรถยนต์มีสีเข้มมาก และสามารถกันความร้อนจากแสงสว่างได้ดีขึ้นด้วย
ความจริงแล้ว ระดับของฟิล์มหมายถึง
ติดฟิล์มรถยนต์เข้ม 40 คือฟิล์มที่ยอมให้แสงส่องผ่าน ( VLT ) ได้ประมาณ 40-50 %
ติดฟิล์มรถยนต์เข้ม 60 คือฟิล์มที่ยอมให้แสงส่องผ่าน ( VLT ) ได้ประมาณ 20 %
ติดฟิล์มรถยนต์เข้ม 80 คือฟิล์มที่ยอมให้แสงส่องผ่าน ( VLT ) ได้ประมาณ 5 %
เพราะฉะนั้น ติดฟิล์มรถยนต์ที่เข้ม 80 เหมือนกันอาจจะมี % แสงส่องผ่านที่ต่างกันทำให้ความเข้มจริงๆต่างกันก็เป็นไปได้
รับติดฟิล์มรถยนต์ดีอย่างไร
“ฟิล์มรถยนต์ที่ดี จะช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดี”
- ฟิล์มติดรถยนต์ช่วยลดความร้อน ของรถได้สูงถึง 98%
- ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ป้องกันผิวหนังและดวงตา โดยการติดฟิล์มกรองแสงสามารถลดรังสีอัลตร้าไวโอเลตหรือยูวีได้กว่า 99% ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนังและต้อกระจก
- ฟิล์มกรองแสงยังช่วยลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ฟิล์มกรองแสง ที่ดีจะสามารถยึดกระจกไม่ให้แตกกระจายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ปลอดภัยจากความคมของเศษกระจก หรือเศษจากกระจกนิรภัย กระเด็นเข้าตา
- ติดฟิล์มรถยนต์ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ การติดฟิล์มกรองแสงสามารถลดแสงจ้าจากดวงอาทิตย์, แสงไฟจากรถที่วิ่งสวนทาง ทำให้ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ที่ดีขึ้น
- ฟิล์มรถยนต์ยังสามารถสร้างความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย การติดฟิล์มกรองแสงที่มีความทึบแสงจะช่วยบดบังผู้ประสงค์ร้ายภายนอก และบดบังทรัพย์สินภายใน การติดฟิล์มกรองแสงจะช่วยปกป้องรถคุณ ไม่ให้อุปกรณ์ภายในรถไม่ว่าจะเป็นแผงหน้าปัด, คอนโซน, พวงมาลัย ฯลฯ ซีดจางและแตกร้าวเร็ว
- ฟิล์มประหยัดพลังงาน การติดฟิล์มรถยนต์ที่ดีสามารถช่วยประหยัดพลังงานและลดภาวะโลกร้อนได้ โดยการป้องกันความร้อนที่เข้ามาในตัวรถ ทำให้ระบบปรับความเย็นในรถ ทำงานน้อยลงจึงเป็นการช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงค่าดูแลรักษาระบบปรับความเย็นอีกด้วย
วิธีดูแลรักษาหลังติดฟิล์มรถยนต์
รับติดฟิล์มรถยนต์ ในแต่ละประเภทนั้นก็จะมีระยะเวลาการรับประกันฟิล์มตั้งแต่ 5-7 ปี แต่ถ้าดูแลฟิล์มติดรถยนต์ไม่ถูกวิธีก็อาจจะทำให้อายุการใช้งานลดลงได้ด้วยเช่นกัน อยากให้ฟิล์มติดรถยนต์คงทนยาวนาน มาดูวิธีดูแลหลังติดฟิล์มติดรถยนต์หลังติดตั้งกันดีกว่าครับ
ดูวิธีติดฟิล์มรถยนต์ ได้ที่นี่ครับ
โดยปกติแล้วเวลาติดตั้งฟิล์มกรองแสงนั้นจะมีการใช้น้ำยาติดตั้งฉีดลงไปบนกระจกรถยนต์ที่ติดตั้ง พร้อมกับบนกาวของแผ่นฟิล์มกรองแสง เมื่อติดฟิล์มลงบนกระจกเรียบร้อยแล้วจึงรีดน้ำออกด้วยเครื่องมือรีดน้ำแบบต่างๆ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำขังอยู่ระหว่างแผ่นฟิล์มกับกระจกได้ ทำให้มองดูคล้ายๆฟองอากาศ (แต่เป็นคราบน้ำยาติดตั้ง) ดูเบลอๆไม่ชัดเจน
ถือเป็นเรื่องปกติ อาการเหล่านี้จะหายไปเอง ภายในเวลา 1-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความหนาของฟิล์ม และสภาพอากาศ ซึ่งในช่วงระยะเวลา 1-4 สัปดาห์นี้ ไม่แนะนำให้ใช้ผ้าเช็ดลงบนแผ่นฟิล์มกรองแสง หรือเลื่อนกระจก เพราะอาจจะทำให้ฟิล์มเลื่อนออกจากตำแหน่งเดิมได้
เมื่อฟิล์มติดรถยนต์แห้งสนิทและกาวยึดติดกระจกแล้ว มีข้อควรระวังดังนี้
- ห้ามใช้กระดาษหนังสือพิมพ์, ผ้าหยาบ, ขนแปรง, สก็อตซ์ไบรต์ เช็ดลงบนเนื้อฟิล์มกรองแสง เนื้อวัสดุที่หยาบอาจจะทำให้ฟิล์มติดรถยนต์เป็นรอยขีดข่วน หรือเกิดความเสียหายได้
- ห้ามเช็ดล้างฟิล์มกรองแสงด้วยน้ำยาล้างกระจกที่มีส่วนผสมของสารแอมโมเนียโดยเด็ดขาด น้ำยาแอมโมเนียจะทำให้ฟิล์มแข็งกระด้าง และลดอายุการใช้งานของฟิล์มกรองแสงลดลง แนะนำให้เช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำ เช็ดเบาๆลงบนแผ่นฟิล์มก็สามารถทำความสะอาด ก็เพียงพอแล้ว
- งดใช้ระบบไล่ฝ้าเป็นเวลา 30 วันหลังจากติดตั้งฟิล์มรถยนต์ เพราะการใช้ระบบละลายฝ้านั้นอาจจะทำให้ฟิล์มติดรถยนต์เสียหายได้
- หลังจากติดตั้งฟิล์มกรองแสง ควรจอดรถยนต์จากแดดไว้เป็นเวลา 7-15 วัน เพื่อให้ฟิล์มแห้งสนิทและอยู่ตัว
“ฟิล์มรถยนต์ที่ดี จะช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดี” เลือกติดทั้งทีเลือกที่ดีมีคุณภาพดีกว่าครับ
FilmHeatGard ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โทร 099-335-8756
รับติดฟิล์มรถยนต์ HeatGard เป็นฟิล์มกรองแสงแบบสั่งผลิตพิเศษ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดจากประเทศเยอรมัน ทำให้ได้ฟิล์มที่เหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองไทยโดยเฉพาะ มีให้ทุกท่านเลือกใช้ 4 รุ่น
- ฟิล์มเซรามิค Heat Gard รุ่น SC “ผสานนวัตกรรม ฟิล์มเซรามิค และ ฟิล์มUV400”ผลิตจากแผ่น Polyester คุณภาพสูง ด้วยนวัตกรรมล่าสุด “Infusion Technology”หลอมเนื้อฟิล์มเป็นชั้นเดียว ทำให้เกิดเป็นฟิล์มติดรถยนต์เกรดพรีเมียมเพียงหนึ่งเดียวที่ผสมผสานระหว่าง “ฟิล์มเซรามิค” ซึ่งมีจุดเด่นด้านความคมชัด และการป้องกันความร้อน เข้ากับ “ฟิล์ม UV400” ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV400 ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวหนังมากที่สุด ได้มากถึง100% อีกด้วย รับประกันยาวนาน 7 ปี
- ฟิล์มกรองแสงนาโน Heat Gard รุ่น Nano Gard “ฟิล์มนาโนเกรดพรีเมียม ชัดกว่า กันร้อนเยี่ยม”ผลิตด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากประเทศเยอรมัน ใช้อนุภาคนาโนเคลือบลงบนแผ่นฟิล์มแทนการย้อมสีหรือการฉาบด้วยโลหะ ทำให้ได้ฟิล์มเกรดพรีเมียมที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการป้องกันรังสี UV และความร้อนที่ดีเยี่ยมสูงสุดถึง82% เนื้อฟิล์มคมชัด ไม่สะท้อนแสง ทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ดีกว่าฟิล์มทั่วๆไปทั้งกลางวันและกลางคืน สีดำสนิท สีไม่ซีดจาง เพิ่มความเป็นส่วนตัว อีกทั้งไม่รบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ , GPS , Easy Pass รับประกันยาวนานถึง 7 ปี ทนทาน ไม่เป็นสนิม
- ฟิล์มกรองแสงฉาบโลหะ Heat Gard รุ่น Black Gard “ฟิล์มกันความร้อนสูง คุณภาพเกินราคา”ผลิตจากแผ่น Polyester คุณภาพสูง เคลือบด้วยอนุภาคโลหะกันร้อน พร้อมสารกันรอยขีดข่วน ทำให้ได้เนื้อฟิล์มที่มีคุณภาพสูง เนื้อฟิล์มคมชัด สีดำเข้ม เพิ่มความดุดัน ให้ความเป็นส่วนตัว สามารถป้องกันรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังได้ถึง 99% และยังกันความร้อนได้สูงสุดถึง 70% รับประกันยาวนาน 5 ปี
- ฟิล์มกรองแสง Heat Gard รุ่น Classic Gard ฟิล์มกรองแสงสีดำClassic ผลิตจากแผ่น polyester คุณภาพสูง ย้อมสีด้วยกระบวนการ Dip Dye Method ทำให้เนื้อฟิล์มมีสีที่สม่ำเสมอสีไม่ลอกออกจากแผ่นฟิล์ม สามารถป้องกันรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ 99% ฟิล์มสีดำเข้ม ไม่เปลี่ยนเป็นสีม่วง ลดแสงจ้า ไม่สะท้อนแสง เพิ่มความเป็นส่วนตัว คุ้มค่า ราคาย่อมเยา
ทำไมต้องเลือกใช้ รับติดฟิล์มรถยนต์ HeatGard?
- เพราะฟิล์มติดรถยนต์ HeatGard ลดความร้อนสูงสุด 98% ด้วยเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูงจากประเทศเยอรมัน ทำให้ทุกท่านมั่นใจว่า รถยนต์ที่ติดฟิล์มรถยนต์ HeatGard ทุกคันสามารถป้องกันความร้อนได้ดีเยี่ยมมากกว่าฟิล์มทั่วๆไป 2-5 เท่า
- เพราะฟิล์ม HeatGard ป้องกันรังสีUV400 100% เนื้อฟิล์มคุณภาพเยี่ยมสามารถป้องกันรังสีUVA UVB ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังได้สูงสุด100% ทำให้ผิวไม่คล้ำเสีย อีกทั้งยังช่วยรักษาอุปกรณ์ภายในรถให้ดูใหม่อยู่เสมอ
- เพราะฟิล์มกรองแสง HeatGard รับประกันยาวนานสูงสุด 18 ปี ฟิล์มกรองแสง HeatGard ฟิล์มคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม คุ้มค่าเกินราคา
- เพราะฟิล์มเซรามิค HeatGard ทำให้ทัศนะวิสัยการขับขี่ดีเยี่ยม เนื้อฟิล์มคมชัด สบายตา แม้ขับขี่ในเวลากลางคืน
ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โทร 099-335-8756
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับฟิล์มติดรถยนต์
1.ติดฟิล์มรถยนต์สีดำเข้ม ไม่ผิดกฎหมายใช่หรือไม่ ?
ในปัจจุบัน กฎหมายบังคับใช้ฟิล์มกรองแสง ขณะนี้ได้ยกเลิกอย่างเป็นทางการแล้ว โดยการเปิด เผยของนายพงศกร เลาหวิเชียร รมช.กระทรวงคมนาคม แต่ หากจะย้อนไปถึงสมัยหลายปีก่อน กรมการขนส่งเคยออกกฎหมาย ให้รถยนต์ทุกคัน ติดฟิล์มกรองแสงได้โดยให้ค่าของแสงผ่านได้ร้อยละ 40 เหตุผลก็คือเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและอาชญากรรม
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ยากและไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้บริโภคเท่าใดนัก เพราะ ผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่ จะติดฟิล์มความเข้มเกิน 40% อยู่แล้ว (เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนตลอดทั้งปี) ทำให้รถเกือบทุกคันต้องลอกเปลี่ยนฟิล์มเก่าทิ้ง นอกจากนี้ยังเกิดความเหลื่อมล้ำในเรื่องของความเป็นธรรม เพราะรถของกรมตำรวจบางคันเอง หรือรถของบรรดานักการเมืองทั้งหลาย ยังคงติดฟิล์มกรองแสงสีดำสนิท ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ใช้รถทั่วไป กฏหมายฉบับนี้จึงถูกยกเลิกไปในที่สุด
2.คราบน้ำที่เกิดขึ้นบนกระจกหลังจากติดตั้ง จะหายไปเองหรือไม่ ?
ในกระบวนการติดตั้งฟิล์มกรองแสงนั้น จะมีการใช้น้ำยาติดตั้งฉีดลงบนกระจก และ กาวบนแผ่นฟิล์มกรองแสงก่อนติดตั้ง เพื่อที่จะได้เลื่อนขยับแผ่นฟิล์มให้เข้ารูปกับกระจกได้ หลังจากนั้นจะถูกรีดออกด้วยเครื่องมือรีดน้ำแบบต่างๆ หลังจากติดตั้งฟิล์มกรองแสงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีน้ำยาติดตั้งเหลืออยู่ระหว่างแผ่นฟิล์มกับกระจกบ้าง ถือเป็นเรื่อง “ปกติ”
ลักษณะมองผิวเผินจะคล้ายๆกับฟองอากาศ เกิดขึ้นทั่วไปบริเวณที่ติดตั้ง มองจากข้างในรถจะเป็นคลื่นๆไม่เรียบ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายได้เองภายในระยะเวลา 1-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความหนาของแผ่นฟิล์มกรองแสง และสภาพอากาศ ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้เลื่อนกระจก หรือ เช็ดกระจกแรงๆ เพราะอาจจะทำให้ฟิล์มกรองแสงเคลื่อนที่ได้
3.ฟิล์มกรองแสง HeatGard รับประกันเรื่องใดบ้าง ?
บริษัทฯ ขอรับประกันคุณภาพของฟิล์มกรองแสงฮีทการ์ดที่ติดตั้งจาก “ตัวแทนจำหน่าย” อย่างเป็นทางการว่า เนื้อฟิล์มจะไม่ แห้งกรอบ, แตกร้าว, หลุดลอกออกจากกระจก
ฟิล์มรุ่นBlackGard เป็นระยะเวลา 5 ปี
ฟิล์มรุ่น NanoGard เป็นระยะเวลา 7 ปี
กรณีฟิล์มกรองแสงเกิดความเสียหายทาง “ตัวแทนจำหน่าย” จะยินดีซ่อมแซม หรือ เปลี่ยนฟิล์มให้ใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
4.เลือกฟิล์มติดรถยนต์อย่างไร ให้เข้ากับรถของคุณ ?
ปกติการเลือกฟิล์มกรองแสงที่เข้ากับรถของท่านั้น ควรจะพิจารณาสิ่งต่างๆ ดังนี้
1.ทัศนะวิสัยการมองเห็นจากภายในรถยนต์ (ทั้งกลางวันและกลางคืน) – ฟิล์มกรองแสงมีหลายประเภท มีหลายความเข้ม ซึ่งฟิล์มกรองแสงคุณภาพดี เช่น ฟิล์มกรองแสงแบบนาโน ก็จะทำให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ ดีกว่าฟิล์มแบบทั่วๆไปที่ความเข้มเดียวกัน
2.การป้องกันรังสีความร้อน – เพื่อการขับขี่ที่สบาย ฟิล์มกรองแสงที่ดี ควรจะป้องกันความร้อนได้มาก แต่ก็ไม่ควรเข้มจนเกินไป
3.ความสวยงามของรถยนต์หลังติดตั้งฟิล์มกรองแสง – ฟิล์มติดรถยนต์ทั่วๆไปจะมี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือฟิล์มดำ กับฟิล์มปรอท การติดฟิล์มทั้ง 2 แบบนี้ จะทำให้รถของท่านมีความสวยงามที่ต่างกันไป ต้องพิจารณาดีๆก่อนติดตั้ง
4.ความคงทน และคุณภาพการติดตั้ง – ฟิล์มกรองแสงที่ดี ควรจะมีการรับประกันตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป และมีศูนย์ติดตั้งที่มีคุณภาพ คอยให้บริการลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
5.ทำไมฟิล์ม HeatGard ถึงกันความร้อนได้สูงสุดถึง 98%
จากการค้นคว้าวิจัยพัฒนาฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสมกับสภาพอากาศเมืองไทย ฟิล์มติดรถยนต์ HeadGard จึงเป็นฟิล์มกรองแสงแบบสั่งผลิตพิเศษ ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดจากประเทศเยอรมัน ทำให้เนื้อฟิล์ม HeadGard เป็นสามารถป้องกันรังสีความร้อนได้สูง เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย ลดความร้อนจากแสงแดดได้อย่างดีเยี่ยมสูงสุดถึง 98% อีกทั้งเนื้อฟิล์มยังคมชัด ไม่รบกวนทัศนวิสัยในการขับขี่
6. สังเกตได้อย่างไรว่าเป็นฟิล์ม HeadGard ของแท้ ?
ฟิล์ม HeatGard ของแท้มีข้อสังเกตได้ดังนี้
- จะต้องมี โลโก HeatGard พร้อมทั้งระบุรุ่น (รุ่น BlackGard รหัส BG , รุ่น NanoGard รหัส NG , รุ่น Fusion รหัส FUV) และความเข้ม (ปริมาณค่าแสงสว่างส่องผ่าน) ปริ้นอยู่บนแผ่นฟิล์ม
- จะต้องมีใบรับประกัน จากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการมอบให้
เงื่อนไขการรับประกันฟิล์มกรองแสง HeatGard
บริษัท อินเตอร์ คูลลิ่งเทค จำกัด ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เลือกใช้ไว้วางใจเลือกใช้ ฟิล์มกรองแสงฮีทการ์ด (HeatGard) ทางบริษัทฯ ขอรับประกันคุณภาพของฟิล์มกรองแสงฮีทการ์ดที่ติดตั้งจาก “ตัวแทนจำหน่าย” อย่างเป็นทางการว่า เนื้อฟิล์มจะไม่ แห้งกรอบ, แตกร้าว, หลุดลอกออกจากกระจก รุ่นBlackGard เป็นระยะเวลา 5 ปี, รุ่น NanoGard เป็นระยะเวลา 7 ปี, รุ่น Fusion เป็นระยะเวลา 18 ปี กรณีฟิล์มกรองแสงเกิดความเสียหายทาง “ตัวแทนจำหน่าย” จะยินดีซ่อมแซม หรือ เปลี่ยนฟิล์มให้ใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทางบริษัทฯ จะไม่รับประกันความเสียหายอันเนื่องมาจาก
– การทำลาย โดยบุคคลที่ ไม่ใช่ช่างผู้ติดตั้ง
– การใช้งานและการดูแลรักษาที่ไม่ถูกต้อง
– กรณีกระจกแตกจากอุบัติเหตุ
– ติดฟิล์มกรองแสงทับตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไป
ซึ่งการรับประกันมีผลใช้เฉพาะผู้มีชื่อในใบรับประกันเท่านั้นและไม่สามารถเปลี่ยนมือ หรือโอนให้แก่ผู้อื่นได้ หากมีรอยแก้ไขในใบรับประกัน , ข้อความไม่ครบ หรือใบรับประกันสูญหาย ทางบริษัทฯ จะถือว่าใบรับประกันนี้เป็นโมฆะ
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเงื่อนไขการรับประกัน สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท อินเตอร์ คูลลิ่งเทค จำกัด โทร.099-335-8756 , 02-003-3583