ฟิล์มกันสะเก็ดหินชนิดนี้ถือได้ว่าจำเป็นและน่าสนใจสำหรับคนรักรถ เพราะฟิล์มชนิดนี้สามารถป้องกันปัญหาการเกิดความเสียหายของกระจกรถยนต์ได้ จะมีคุณสมบัติในเรื่องความยืดหยุ่น มีความหนา กันกระจกแตกได้เป็นอย่างดี
Category Archives: ไม่มีหมวดหมู่
หลังคาแก้วรถยนต์ Sunroof ควรเลือกติดฟิล์มแบบไหนดี การติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่หลังคา Sunroof ควรจะเลือกชนิดฟิล์มกรองแสงที่สามารถช่วยป้องกันรังสีความร้อน (IRR) ได้ 90% ขึ้นไป ซึ่งฟิล์มติดหลังคารถยนต์ที่แนะนำคือฟิล์มเซรามิคยี่ห้อ Heatgard รุ่น Super Ceramic (SC) ซึ่งสามารถป้องกันรังสีความร้อนได้สูงสุดที่ 94% และรับประกันให้สูงถึง 7 ปี สำหรับความเข้มที่แนะนำให้เลือกติดตั้งคือ 60%-80% แสงส่องผ่านไม่ควรมากกว่า 20% เพราะถ้าเลือกความเข้มที่น้อยกว่านี้ จะทำให้แสงสามารถส่องผ่านเข้ามาภายในห้องโดยสารรถยนต์ได้เยอะ ซึ่งทำให้ไม่สามารถป้องกันแสงแดดได้เท่าที่ควร ดังนั้น รุ่นที่แนะนำจึงเป็น รหัส SC15 (ความเข้ม 60%) แสงส่องผ่าน 17% ป้องกันรังสีความร้อนได้ถึง 91% ป้องกันยูวีได้ถึง 99% รหัส SC05 (ความเข้ม 80%) แสงส่องผ่าน 5% ป้องกันรังสีความร้อนได้ถึง 93% ป้องกันยูวีได้ถึง 99% สนใจติดฟิล์มหลังคารถยนต์ราคาถูก โทรหาเราสิครับ Sunroof แต่ละชนิดคิดราคาอย่างไร เนื่องจากหลังคา […]
ในสมัยปัจจุบัน การติดฟิล์มคอนโดเป็นหนึ่งในวิธีการที่สำคัญในการป้องกันแสงแดดและลดความร้อนภายในห้องของคอนโดมิเนียม เมื่อแสงแดดเข้าสู่อาคารความร้อนจากแสงแดดสามารถเข้ามาภายในห้องและกระจายไปทั่วทั้งพื้นที่ ทำให้อุณหภูมิภายในเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าติดม่านแล้วยังไม่พอ การติดฟิล์มคอนโดเป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพสูงในการรับมือกับความร้อนแรงจากแสงแดดประเทศไทย
รับติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์นอกสถานที่ ด้วยบริการมืออาชีพที่ทันสมัยและคุณภาพสูง ป้องกันแสงแดดและลดความร้อนในรถของคุณ
คู่มือง่ายๆ สำหรับการติดตั้งฟิล์มกรองแสงอาคาร ช่วยเพิ่มความเย็น และความเป็นส่วนตัว หากต้องการช่างมืออาชีพ HeatGard พร้อมให้บริการ
ฟองอากาศในฟิล์มรถยนต์คืออะไร ฟองอากาศหรือคราบน้ำ (หรือบางคนอาจจะเรียกว่าต่อมน้ำ) จะมีลักษณะเป็นเม็ดหยดน้ำที่อยู่ในเนื้อกระจก สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณเดียว หรือกระจายตัวเป็นวงกว้างทั่วผืนกระจก สาเหตุเกิดจากการขั้นตอนในการติดตั้งฟิล์มกรองแสง เพราะว่าฟิล์มกรองแสงจำเป็นต้องใช้น้ำผสมน้ำยาติดฟิล์มกรองแสงเป็นส่วนประกอบสำคัญในการติดตั้ง ช่างจะใช้น้ำที่ผสมน้ำยาฉีดลงไปบนด้านแผ่นกาวของฟิล์มกรองแสง และฉีดลงบนกระจกด้านที่จะติดตั้ง เพื่อช่วยให้ช่างฟิล์มสามารถจัดตำแหน่งฟิล์มกรองแสงให้เข้าที่ได้อย่างสะดวก และพอดีกับขอบกระจกได้แม่นยำ เลยทำให้หลังจากติดตั้งฟิล์มกรองแสงเสร็จอาจจะยังมีคราบน้ำ ต่อมน้ำ หรือฟองอากาศหลงเหลือในเนื้อฟิล์มอยู่บ้าง ทำไมถึงมีคราบน้ำคล้ายๆฟองอากาศหลังติดตั้งฟิล์มรถยนต์ อย่างไรก็ตามการรีดน้ำออกจากแผ่นฟิล์มนั้น ถึงแม้จะใช้อุปกรณ์เกียงรีดฟิล์มมาตรฐาน และดำเนินการด้วยช่างที่ฟิล์มฝีมือดีแล้วก็ตาม ในเนื้อฟิล์มก็จะยังคงหลงเหลือคราบน้ำหรือต่อมน้ำที่มีลักษณะคล้ายฟองอากาศบนแผ่นกระจกอยู่บ้าง ซึ่งโดยปกติแล้ว คราบน้ำหรือต่อมน้ำจะหายไปเองภายใน 7-14 วันนับจากวันที่ติดตั้งฟิล์มกรองแสง ยกเว้นฟิล์มนิรภัยที่จะมีความหนามากกว่าฟิล์มกรองแสงปกติ ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 30 วันขึ้นไป แต่ถ้าหากต้องการให้ปัญหานี้หมดไปเร็วขึ้นมากกว่าเดิม แนะนำให้ลูกค้านำรถออกไปจอดกลางแดด เนื่องจากความร้อนจากแสงอาทิตย์จะช่วยให้คราบน้ำในฟิล์มระเหยออกไปได้เร็วขึ้นแต่จะไม่แนะนำให้ไปจอดกลางแดดตลอดเวลา เพราะอาจจะทำให้สีของฟิล์มซีดไวกว่าปกติ แนะนำให้จอดกลางแดดผสมกับจอดในร่มจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด จอดรถตากแดดแล้วฟองอากาศในฟิล์มไม่หายไป ทำอย่างไร ถ้าหากระยะเวลาเลยไปนานกว่า 20 วันแล้วหลังจากการติดตั้งฟิล์มกรองแสง แต่คราบน้ำ หรือต่อมน้ำยังไม่หายไป อาจจะเกิดจากเม็ดฝุ่น หรือคราบกาว คราบน้ำยา ซึ่งเกิดจากการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น สถานที่ที่ติดตั้งมีฝุ่นละอองเป็นจำนวนมาก หรือการติดตั้งนอกสถานที่ที่ไม่ใช่ห้องกระจกสำหรับติดตั้งฟิล์มกรองแสงโดยเฉพาะ ซึ่งฟองอากาศแบบนี้จะไม่สามารถหายไปเองได้ อาการแบบนี้แนะนำให้เข้ารับการแก้ไขจากร้านที่ติดตั้งเพื่อความสบายใจในการขับขี่ อย่างไรก็ตาม การติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์นับเป็นงานฝีมือชนิดหนึ่ง ที่จะต้องอาศัยความชำนาญของช่าง ซึ่งรถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ การติดตั้งฟิล์มกรองแสงก็จะมีความแตกต่างกันออกไป […]
ในวันที่แดดแรงรวมถึงสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลทำให้หลายคนอยากจะติดฟิล์มกรองแสงให้กับรถยนต์ แต่หลายคนยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเลือก ความเข้มของฟิล์มรถยนต์ เท่าไร จึงจะเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ในการขับขี่ของแต่ละคน จึงขอแนะนำว่าให้เริ่มพิจารณาจากพฤติกรรมการขับขี่ของตัวเองก่อนว่าใช้การขับขี่รถในช่วงเวลาไหนเป็นหลัก กลางวันหรือกลางคืน และต้องการความเป็นส่วนตัวมากน้อยขนาดไหน เพราะถ้าเจอแดดแรงในช่วงกลางวันบ่อย เราจะขอแนะนำให้เลือก ความมืดของฟิล์มรถยนต์ ที่ระดับ 60% ติดรอบคัน หาร้านติดฟิล์มรถยนต์ 60 รอบคัน ราคาถูก ติดฟิล์ม 60 รอบคัน มืดไหม ฟิล์มติดรถยนต์ความเข้ม 60% ค่าแสงสว่างส่องผ่านจะอยู่ที่ประมาณ 15-20% (VLT) ซึ่งเป็นความเข้มที่นิยมสำหรับคนที่ชอบความสบายตา เหมาะสำหรับคนที่สายตาปกติ ไม่มีปัญหาเรื่องสายตา ติดฟิล์ม 60 รอบคันไม่มืดจนเกินไป สามารถขับรถสบายๆทั้งตอนกลางวันและกลางคืน ขับได้ทุกเพศทุกวัย และสามารถขับในตอนกลางคืนได้แบบสบายๆ ทั้งในเมืองและต่างจังหวัด ถึงแม้ว่าขับไปถนนที่มีแสงไฟน้อย ก็ไม่ต้องเพ่งจนปวดตา ถือเป็นความเข้มยอดนิยมของคนไทยเนื่องจากความเข้มไม่มืดหรือไม่สว่างจนเกินไป มองจากระยะไกลจะเห็นว่าฟิล์มมีความมืด จึงให้ความเป็นส่วนตัวได้ค่อนข้างสูง คนที่มองเข้าไปจากด้านนอกจะมองเห็นเพียงรางๆ ในเรื่องของความสามารถในการป้องกันความร้อนก็ทำได้ดี มีคุณภาพสูงเต็มศักยภาพ สำหรับมุมมองของคนขับทัศนวิสัยในการมองเห็นชัดเจน ไม่มืด หากใครต้องการฟิล์มที่ไม่มีความสว่างมากฟิล์มกรองแสงระดับความเข้ม 60 ก็ถือว่าเหมาะสม วิธีการดูรหัสความเข้มของฟิล์มติดรถยนต์ 60 % หากไม่แน่ใจว่าฟิล์มที่ติดอยู่ปัจจุบันนั้น […]
ในสภาพอากาศบ้านเราที่ค่อนข้างร้อนมาก ทำให้ผู้ใช้รถยนต์รู้สึกแสบตา หรือร้อนจ้าในช่วงเวลาที่ต้องขับรถยนต์ในตอนกลางวัน จึงทำให้ต้องพึ่งพาฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ที่มีเปอร์เซนต์ป้องกันค่าแสงส่องผ่านได้สูง ซึ่งหลายคนกังวลว่า กฏหมายติดฟิล์มกรองแสงเป็นอย่างไร? ติดฟิล์มดำ 80% จะผิดกฏหมายมั้ย? ซึ่งในสมัยก่อน ติดฟิล์มเข้ม 80% จะมีความผิดทางกฏหมาย แต่ในปัจจุบันได้มีการยกเลิกใช้กฎหมายฟิล์มกรองแสงในไทยไปแล้ว ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2543 แต่ฟิล์มที่ยังผิดกฎหมายอยู่คือ ฟิล์มปรอท ที่สามารถสะท้อนแสงได้ในปริมาณมาก ส่งผลให้รบกวนต่อการขับขี่ของผู้อื่น ตามกฎหมาย พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 โดยระบุไว้ว่า มาตรา 12 รถใดที่จดทะเบียนแล้ว หากปรากฏในภายหลังว่ารถนั้นมีส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถไม่ครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง หรือเพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถนั้นจนกว่าจะจัดให้มีครบถ้วนถูกต้องหรือเอาออกแล้ว ในกรณีที่นายทะเบียนเห็นว่า เจ้าของรถไม่อาจจัดให้มีครบถ้วนถูกต้อง หรือเอาออกได้ ให้นายทะเบียนสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนรถนั้น เจ้าของรถมีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่ออธิบดีภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ทราบคำสั่งของนายทะเบียน คำวินิจฉัยของอธิบดีให้เป็นที่สุด ตามด้านบนนั้นหมายถึง ฟิล์มปรอทที่มีค่าสะท้อนแสงสูง อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 ซึ่งเป็นบทลงโทษเกี่ยวกับการติดตั้งส่วนเพิ่มเติมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่อื่น หรือทำให้ผู้ขับขี่อื่นแสบตาจนบดบังทัศนวิสัยในการขับขี่นั่นเอง นั่นหมายความว่า ติดฟิล์มดำความเข้ม 80% […]
1.ติดฟิล์มรถยนต์สีดำเข้ม 80% ไม่ผิดกฎหมายใช่หรือไม่ ? ในปัจจุบัน กฎหมายบังคับใช้ฟิล์มกรองแสง ติดสีดำเข้ม 80% ขณะนี้ได้ยกเลิกอย่างเป็นทางการแล้ว โดยการเปิด เผยของนายพงศกร เลาหวิเชียร รมช.กระทรวงคมนาคม ที่มา https://www.buildingfilmtastic.com/tint80darkness/ แต่ หากจะย้อนไปถึงสมัยหลายปีก่อน กรมการขนส่งเคยออกกฎหมาย ให้รถยนต์ทุกคัน ติดฟิล์มกรองแสงได้โดยให้ค่าของแสงผ่านได้ร้อยละ 40 เหตุผลก็คือเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและอาชญากรรม ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ยากและไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้บริโภคเท่าใดนัก เพราะ ผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่ จะติดฟิล์มความเข้มเกิน 40% อยู่แล้ว (เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศร้อนตลอดทั้งปี) ทำให้รถเกือบทุกคันต้องลอกเปลี่ยนฟิล์มเก่าทิ้ง นอกจากนี้ยังเกิดความเหลื่อมล้ำในเรื่องของความเป็นธรรม เพราะรถของกรมตำรวจบางคันเอง หรือรถของบรรดานักการเมืองทั้งหลาย ยังคงติดฟิล์มกรองแสงสีดำสนิท ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ใช้รถทั่วไป กฏหมายฉบับนี้จึงถูกยกเลิกไปในที่สุด 2.คราบน้ำที่เกิดขึ้นบนกระจกหลังจากติดตั้ง จะหายไปเองหรือไม่ ? ในกระบวนการติดตั้งฟิล์มกรองแสงนั้น จะมีการใช้น้ำยาติดตั้งฉีดลงบนกระจก และ กาวบนแผ่นฟิล์มกรองแสงก่อนติดตั้ง เพื่อที่จะได้เลื่อนขยับแผ่นฟิล์มให้เข้ารูปกับกระจกได้ หลังจากนั้นจะถูกรีดออกด้วยเครื่องมือรีดน้ำแบบต่างๆ หลังจากติดตั้งฟิล์มกรองแสงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีน้ำยาติดตั้งเหลืออยู่ระหว่างแผ่นฟิล์มกับกระจกบ้าง ถือเป็นเรื่อง “ปกติ” ลักษณะมองผิวเผินจะคล้ายๆกับฟองอากาศ เกิดขึ้นทั่วไปบริเวณที่ติดตั้ง มองจากข้างในรถจะเป็นคลื่นๆไม่เรียบ […]