ฟิล์มติดรถยนต์เซรามิค คืออะไร?
ฟิล์มเซรามิค คือ ฟิล์มกรองแสงที่เคลือบด้วยอนุภาคนาโนเซรามิค (อนุภาคขนาด 10−9 หรือหนึ่งในพันล้าน) โดยเคลือบลงบนแผ่นพลาสติกฟิล์มกรองแสงหลายๆชั้น เพื่อเป็นการป้องกันรังสีความร้อน (IRR) ได้มากกว่า80% และป้องกันรังสี UVมากกว่า 99.9% เทคโนโลยีการเคลือบฟิล์มด้วยนาโนเซรามิค เป็นเทคโนโลยีการผลิตฟิล์มแบบใหม่ล่าสุด ต่างจากสมัยก่อนที่ฟิล์มจะต้องย้อมสีเพื่อเพิ่มความเข้ม และการฉาบฟิล์มกรองแสงด้วยสารโลหะ (ฟิล์มปรอท)
จุดเด่นของฟิล์มเซรามิคคือ ฟิล์มจะไม่รบกวนสัญญาณดิจิตอล สัญญาณมือถือ เป็นต้น ฟิล์มเซรามิคที่ได้จะมีความคงทนสูงกว่าฟิล์มทั่วๆไป และสามารถตัดรังสีอินฟราเรด หรือรังสีความร้อนได้โดยเฉพาะ ได้มากกว่าฟิล์มดำ หรือ ฟิล์มปรอท ถ้าถามว่าติดฟิล์มเซรามิค คุ้มไหม ต้องบอกเลยว่าในปัจจุบัน ติดฟิล์มเซรามิค คุ้มค่าแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://ceramicpro.com/what-is-a-ceramic-window-tint/
สนใจติดฟิล์มเซรามิคราคาถูก สอบถามเราสิครับ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับฟิล์มเซรามิค
1. ฟิล์มเซรามิกแพงแน่นอน
บางคนยังคิดว่าติดฟิล์มเซรามิค ต้องใช้งบ 10,000-20,000 บาท ถึงจะติดได้ แต่ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้ราคาติดฟิล์มเซรามิค ถูกลงค่อนข้างมากแล้ว ในการติดฟิล์มเซรามิค 1 คัน ราคาแค่ 5000-6000 บาท ก็สามารถติดได้แล้ว
ฟิล์มเซรามิค ถึงแม้ฟิล์มเซรามิกอาจจะแพงกว่าฟิล์มกรองแสงชนิดอื่นๆก็จริง แต่ถ้าเทียบคุณภาพกับราคาแล้ว การติดฟิล์มเซรามิค ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน
2. ฟิล์มเซรามิกติดตั้งยาก ทำให้เส้นไล่ฝ้าขาด
ในความเป็นจริงแล้วฟิล์มเซรามิก ติดตั้งได้ง่ายมากกว่าฟิล์มกรองแสงชนิดอื่นๆด้วยซ้ำ การติดตั้งง่ายหรือยากนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิล์ม แต่ขึ้นอยู่กับเนื้อพลาสติกที่ใช้ผลิตฟิล์มนั้นๆ ความหนาของฟิล์ม การเคลือบสารต่างๆ ความเหนียวของกาวในการติดตั้ง เป็นต้น
3. ฟิล์มเซรามิกมืดเกินไป
หลายๆคนคิดว่า ติดฟิล์มเซรามิคแล้ว มืดนอกสว่างใน ทำให้ติดฟิล์มเซรามิคที่ความเข้ม เข้มกว่าที่ตัวเองรับไหว ทำให้มองว่า ฟิล์มเซรามิคมันเข้มเกินไป มืดเกินไป
จริงๆแล้ว ฟิล์มเซรามิกมีหลากหลายระดับความเข้มให้เลือก มีปริมาณแสงส่องผ่าน VLT หลากหลายความเข้มมาก โดยคุณสามารถเลือกความเข้มได้ตามต้องการโดยที่ไม่มืดเกินไป
สนใจติดฟิล์มเซรามิครถยนต์
ฟิล์มเซรามิค VS ฟิล์มดำ VS ฟิล์มปรอท
นอกจากฟิล์มเซรามิคแล้ว ยังมีฟิล์มอีกหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มย้อมสี, ฟิล์มคาร์บอน และ ฟิล์มปรอท เป็นต้น ซึ่งฟิล์มแต่ละชนิดก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป
วันนี้เราจะมาเจาะลึกความแตกต่างของฟิล์มแต่ละชนิดกันครับ
ฟิล์มย้อมสี
ฟิล์มย้อมสีเป็นฟิล์มกรองแสงชนิดพื้นฐานที่สุด จุดเหมือนกับฟิล์มเซรามิคคือเป็นฟิล์มที่ทำให้สีดำเข้มเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ฟิล์มย้อมสีจะไม่มีสารกรองแสงหรือสารกรองรังสี UV เลย
จุดเด่นของฟิล์มย้อมสี คือ ราคาไม่แพง
แต่ข้อเสียก็คือ ฟิล์มกันร้อนได้ไม่ดีและสามารถเสื่อมสภาพได้ง่าย ติดแค่ 1-2 ปี ก็เสื่อมสภาพแล้ว
ฟิล์มคาร์บอน
ฟิล์มคาร์บอนถูกพัฒนาจากฟิล์มย้อมสี โดยมีการเพิ่มอนุภาคคาร์บอนในวัสดุกาว ทำให้มีความคงทนมากขึ้น ช่วยในการสะท้อนความร้อนได้บางส่วน และป้องกันรังสี UV ซึ่งฟิล์มคาร์บอนถือว่าเป็นฟิล์มเกรดกลางๆ ไม่ดีหรือไม่แย่จนเกินไป
ข้อดีของฟิล์มคาร์บอนคือ เป็นฟิล์มที่กันร้อนได้กลางๆ สะท้อนแสงน้อย ราคาไม่แพง อย่างไรก็ตาม
ข้อเสียของฟิล์มคาร์บอนคือ อาจจะกันร้อนได้ไม่ดีเท่าฟิล์มปรอทหรือฟิล์มเซรามิคนั้นเอง
ฟิล์มโลหะ หรือ ฟิล์มปรอท
ฟิล์มโลหะหรือฟิล์มปรอทนั้น ใช้โลหะในการเคลือบฟิล์มกรองแสง ทำให้ฟิล์มกรองแสงมีความมันวาว สะท้อนความร้อนได้ดี แม้ว่าวัสดุชนิดนี้จะมีความลดความร้อนและแสงสะท้อนที่ดีมาก แต่มันอาจมีผลต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ถ้ามีค่าสะท้อนแสงที่สูงมาก
ข้อดีของฟิล์มปรอทคือ สามารถป้องกันรังสี UVได้ 99% ป้องกันรังสีความร้อนได้มากกว่า 50-99 % เลยทีเดียว
ข้อเสียของฟิล์มปรอทคือ การสะท้อนแสงสูง อาจจะรบกวนสายตาผุ้อื่นได้ แล้ว ฟิล์มปรอทบางรุ่น EasyPass ก็จะไม่สามารถผ่านได้เช่นกัน
สนใจติดฟิล์มเซรามิคราคาถูก สอบถามเราสิครับ
ประโยชน์ของฟิล์มเซรามิค จุดเด่นมีอะไรบ้าง?
ฟิล์มเซรามิกถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการเพิ่มความเป็นส่วนตัวและประหยัดพลังงานให้กับบ้านหรือรถยนต์ของคุณ แต่นอกจากฟิล์มเซรามิคจะมีจุดเด่นที่ดำนอก สว่างใน แล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
1. ฟิล์มเซรามิค ช่วยปกป้องคุณจากรังสี UV
ที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์ ซึ่ง ฟิล์มเซรามิค ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ จะมีค่าการป้องกันรังสี UV หรือ UVR มากถึง 99% ทำให้สามารถปกป้องผิวหนังสำหรับคนขับรถ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ภายในรถ ไม่ว่าจะเป็นเบาะ พรม คอนโซลหน้ารถ เป็นต้น
2. ฟิล์มเซรามิคช่วยลดค่าไฟ สามารถคืนทุนได้ใน 5-7 ปี
ฟิล์มเซรามิค ได้มีการพัฒนามาเพื่อประหยัดพลังงานมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น การที่ฟิล์มสามารถป้องกันรังสีความร้อนได้ มากกว่า 80-90 % จะช่วยให้อุณหภูมิ ภายในตัวรถ หรือ ภายในบ้าน เย็นลงอย่างรวดเร็ว ประหยัดพลังงานจากเครื่องปรับอากาศได้เป็นอย่างดี
3. ฟิล์มเซรามิคช่วยให้การทำความสะอาดกระจกรถ ง่ายขึ้น
เนื่องจากฟิล์มเซรามิค จะมีสารเคลือบเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ ทำให้เราสามารถทำความสะอาดกระจกง่ายโดยแค่เพียงใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ ชุบน้ำเช็ดเบาๆ ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาเช็ดกระจกเช็ดทำความสะอาด ก็สามารถล้างคราบผุ่น หรือคราบสกปรกได้ง่ายๆครับ
4. ฟิล์มเซรามิคช่วยป้องกันอันตรายจากฟิล์มแตกกระจาย
ฟิล์มเซรามิค จะค่อนข้างหนาเมื่อเทียบกับฟิล์มดำธรรมดาทั่วไป ซึ่งหนาแค่ 1 มิล ฟิล์มเซรามิคจะหนา 1.5-2.5 มิล ทำให้สามารถรับแรงกระแทก เมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ ทำให้ฟิล์มเกาะเป็นแผ่น ไม่แตกกระจาย และทำให้กระจกแจกยากขึ้นด้วย
5. ฟิล์มเซรามิคช่วยให้ความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากสีไม่ซีด
ฟิล์มเซรามิค จะเป็นฟิล์มกรองแสงแค่ประเภทเดียว ที่สีจะไม่ซีดจางตามกาลเวลา เมื่อเทียบกับฟิล์มดำ หรือฟิล์มปรอท ที่สีของฟิล์มจะค่อยๆซีดลงทุกปี พอใช้ไป 2-3 ปี จากฟิล์มเข้ม 80% ก็จะเหลือแค่ ฟิล์ม60% เท่านั้น แต่กับฟิล์มเซรามิค บอกเลยว่าความเข้มฟิล์มเข้มเท่าไร ใช้ผ่านไปนานกี่ปี ความเข้มก็ยังเท่าเดิม เหมือนที่ติดไปจากศูนย์ครับ
สนใจติดฟิล์มเซรามิค โทรเลย
เบอร์โทร: 099-335-8756 , 02-003-3583
E-mail: heatgardfilm@gmail.com
Line : HeatGard
Facebook : https://www.facebook.com/heatgardfilm
ฟิล์มเซรามิค เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการผลิตฟิล์มกรองแสงได้พัฒนาขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง จากสมัยก่อนหากต้องการฟิล์มที่ป้องกันแสง ป้องกันความร้อน ต้องมีการย้อมสีฟิล์มเพื่อเพิ่มความเข้ม เพิ่มเฉดสี หรือเคลือบสารโลหะต่างๆ เช่น ทอง เงิน อลูมิเนียม เพื่อใช้ในการสะท้อนความร้อน หรือที่เรียกกันว่า ฟิล์มปรอท
มาในปัจจุบัน มีการใช้สารอนุภาคนาโนในรูปแบบต่างๆ เช่น นาโนเซรามิค มาช่วยเสริมเข้าไปในเนื้อฟิล์มกรองแสง ทำให้ฟิล์มกรองแสงในปัจจุบันนั้น หรือที่เรียกว่าฟิล์มเซรามิคนั้น มีคุณสมบัติโดดเด่นหลากหลายประการ โดยเฉพาะการกันความร้อน เพราะอนุภาค นาโน มีคุณสมบัติในการตัดรังสีความร้อนได้โดยเฉพาะ โดยไม่ต้องอาศัยการสะท้อนของแสงเหมือนฟิล์มสมัยก่อน ผลที่ได้ทำให้ฟิล์มนาโนเซรามิคที่มีการสะท้อนแสงน้อย ไม่เงา ไม่มีปรอท
ทำให้เวลาขับรถไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ความคมชัด จะดีกว่าฟิล์มกรองแสงทั่วๆไป และอนุภาคนาโนยังมีความทนทานต่อความร้อนสูง สามารถคงอนุภาคนาโนได้นาน ไม่เสื่อมสภาพ ทำให้ฟิล์มที่ทำจากนาโนเซรามิคนั้น มีความทนทานกว่าฟิล์มทั่วๆไป ที่สำคัญ สีฟิล์มจะไม่ซีดจาง และการป้องกันความร้อนก็จะป้องกันได้สม่ำเสมอ ตลอดอายุการใช้งาน
เส้นใยเซรามิค นอกจากใช้ในฟิล์มกรองแสงแล้ว มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
เส้นใยนาโนเซรามิกเป็นวัสดุที่ได้รับความสนใจอย่างมากในการนำไปประยุกต์ใช้งานที่ หลากหลายด้วยสมบัติที่ขึ้นกับพื้นที่ผิวที่เพิ่มขึ้นและขนาดที่เล็กลงของวัสดุ นอกจากนี้เส้นใยนาโนยังมี สมบัติพิเศษทั้งทางด้านฟิสิกส์ เคมี และชีวภาพ ตัวอย่างเช่น การนำไปประยุกต์ใช้กับงานที่ต้องการพื้นที่ ผิวสัมผัสสูง เช่น แผ่นกรอง (filter) ตัวตรวจจับ (sensor) ตัวเร่งปฏิกิริยา (catalyst) ตัวดูดซับ (adsorbent) ใช้ในการแยกสาร(separation) และในวิศวกรรมเนื้อเยื่อ (tissue engineering) เป็นต้น
ทั้งนี้ ขึ้นกับวิธีและสารที่นำมาสังเคราะห์ อย่างไรก็ตามการสังเคราะห์เซรามิกที่มีโครงสร้างในระดับนาโนเพื่อการค้านั้น จะต้องมีการควบคุมขนาดที่แน่นอน ทำให้มีข้อจำกัดในการนำไปใช้งานจริง ซึ่งเทคนิคอิเล็กโตรสปินนิงนับว่าเป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพที่สามารถประดิษฐ์เส้นใยนาโนในระดับ อุตสาหกรรมได้ โดยเป็นเทคนิคที่อาศัยแรงทางไฟฟ้าสถิตในการผลิตเส้นใยที่มีความต่อเนื่อง
มีการจัดเรียงตัวของเส้นใยที่ดี มีพื้นที่ผิวจำเพาะสูง และอัตราส่วนความยาวต่อเส้นผ่านศูนย์กลางสูง จึงได้มีการ ปรับปรุงกระบวนการนี้ในการประดิษฐ์เส้นใยนาโนเซรามิก ด้วยการนำเทคนิคอิเล็กโตรสปินนิงและ โซล-เจลมาใช้ร่วมกันในการประดิษฐ์เส้นใยนาโนเซรามิกที่มีความแตกต่างของขนาด สัดส่วน และ รูปแบบโครงสร้าง จากนั้นจึงทำการแคลไซน์ (calcination) และการซินเตอร์ (sintering) เพื่อเปลี่ยนสาร ตั้งต้นไปเป็นเซรามิกที่ต้องการ
สนใจติดฟิล์มกรองแสงเซรามิค สอบถามเพิ่มเติม ได้ที่
เบอร์โทร: 099-335-8756 , 02-003-3583
E-mail: heatgardfilm@gmail.com
Line : HeatGard
Facebook : https://www.facebook.com/heatgardfilm